เว็บไซต์จองห้องพักโดยตรงของโรงแรมไม่ได้เป็นเพียงร้านค้าออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นโดยการพึ่งพาตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) น้อยลง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับแขก เมื่อผู้คนจองโดยตรง โรงแรมจะเก็บเงินไว้ได้มากขึ้น (ไม่มีค่าคอมมิชชัน) ได้รับข้อมูลแขกทั้งหมด และมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่การมีเว็บไซต์อย่างเดียวไม่พอ ความท้าทายที่แท้จริงคือการทำให้ผู้คนมาจองผ่านช่องทางนั้นจริง ๆ
คู่มือนี้จะสำรวจกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริงเพื่อโปรโมตเว็บไซต์จองห้องพักโดยตรงของคุณ และเพิ่มการจองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหตุใดการโปรโมตเว็บไซต์จองห้องพักโดยตรงของคุณจึงสำคัญ
ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) ครองตลาดการจัดจำหน่ายห้องพักของโรงแรม แต่ค่าคอมมิชชันที่สูง—มักจะอยู่ที่ 15% ถึง 25%—ทำให้ส่วนต่างกำไรลดลง การพึ่งพา OTAs เพียงอย่างเดียวจำกัดความสามารถของคุณในการควบคุมประสบการณ์ของแขกและการรวบรวมข้อมูลอันมีค่าสำหรับการตลาดในอนาคต
การโปรโมตการจองโดยตรงทำให้คุณได้รับประโยชน์หลายประการ:
- ต้นทุนที่ต่ำลง: ไม่มีค่าคอมมิชชันของ OTA หมายถึงกำไรต่อห้องที่สูงขึ้น
- ความภักดีต่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น: แขกที่จองโดยตรงจะรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณ
- ข้อมูลแขกที่ดีขึ้น: การจองโดยตรงช่วยให้คุณได้รับรายละเอียดการติดต่อเพื่อนำเสนอข้อเสนอที่เป็นส่วนตัว
- ควบคุมประสบการณ์ได้อย่างสมบูรณ์: คุณจัดการการสื่อสาร, การเพิ่มยอดขาย, และคำขอพิเศษต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
วิธีเพิ่มการจองโดยตรงในโรงแรมของคุณ
การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มรายได้และความภักดีของลูกค้าของโรงแรมได้อย่างมาก ส่วนนี้จะสำรวจวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วซึ่งช่วยให้โรงแรมดึงดูดแขกให้จองโดยตรง
1. ปรับปรุงเว็บไซต์จองห้องพักโดยตรงของคุณเพื่อเพิ่มการเปลี่ยนเป็นยอดจอง
ก่อนที่คุณจะสามารถดึงดูดผู้คนเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณได้ เว็บไซต์นั้นจำเป็นต้องเป็นสถานที่ที่พวกเขาสนุกกับการใช้งานจริง ๆ ลองนึกถึงเว็บไซต์ว่าเป็นแผนกต้อนรับดิจิทัลของโรงแรมคุณ
- ใช้งานได้ดีบนโทรศัพท์มือถือ: นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จองผ่านมือถือ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วและนำทางได้ง่ายบนหน้าจอขนาดเล็ก
- ปุ่ม “จองตอนนี้” ที่ชัดเจน: วางปุ่มเหล่านี้ไว้ในที่ที่แขกไม่สามารถมองข้ามได้ในทุกหน้า ทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายเพื่อให้พวกเขาไม่สับสนในขณะที่ทำการจอง
- ระบบการจองที่ใช้งานง่าย: ใช้ระบบที่ใช้งานง่าย แสดงห้องว่างที่มีอยู่จริง และอนุญาตให้แขกชำระเงินได้หลายวิธี
- ตัวเลือกภาษาและสกุลเงิน: ให้แขกจากต่างประเทศสามารถดูราคาและจองในภาษาและสกุลเงินของตนเอง
- ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม: แสดงห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่ท้องถิ่นด้วยรูปภาพคุณภาพสูง สิ่งนี้สร้างความไว้วางใจและทำให้ผู้คนต้องการเข้าพัก
- ศูนย์ควบคุมของโรงแรมคุณ: นอกเหนือจากเครื่องมือการจองแล้ว คุณยังต้องมีเทคโนโลยีที่ดีอยู่เบื้องหลัง ระบบบริหารจัดการโรงแรม (PMS) ช่วยให้คุณจัดการการจอง ข้อมูลแขก และการดำเนินงานประจำวันได้อย่างราบรื่น
2. ใช้ประโยชน์จากการทำ SEO และการตลาดเนื้อหา
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เริ่มต้นการวางแผนการเดินทางด้วยการค้นหาใน Google—เช่น “กระท่อมบรรยากาศสบาย ๆ ในแอชวิลล์” หรือ “โรงแรมมีสระว่ายน้ำใกล้สนามบินออร์แลนโด” เพื่อให้แสดงในผลการค้นหาเหล่านี้ คุณต้องกำหนดเป้าหมายคำหลักที่ถูกต้อง ข้ามคำที่กว้างเกินไป เช่น “โรงแรมในปารีส”—ซึ่งเป็นคำที่ OTAs ครองอยู่ แต่ให้ใช้คำหลักแบบยาวที่เฉพาะเจาะจงกับที่พักของคุณแทน
ตัวอย่างเช่น “บ้านพักตากอากาศที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักพร้อมเตาผิงในโคโลราโด” หรือ “โรงแรมราคาประหยัดใกล้ Central Park นิวยอร์กสำหรับครอบครัว”
คำหลักเหล่านี้มีการแข่งขันน้อยกว่า ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะติดอันดับสูง
นอกจากนี้ คุณควรเริ่มบล็อกบนเว็บไซต์ของคุณ เขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การขาย ตัวอย่างเช่น “5 เส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุดใกล้ Mountain Lodge ของเรา” หรือ “วิธีวางแผนทริปครอบครัวไปไมอามีด้วยงบประมาณจำกัด” เนื้อหาประเภทนี้ดึงดูดผู้คนที่กำลังค้นหาเคล็ดลับการเดินทาง และเมื่อพวกเขาอ่านบล็อกของคุณ พวกเขาก็จะได้รู้จักที่พักของคุณ และอย่าลืมใส่ลิงก์ไปยังหน้าจองห้องพักของคุณในทุกบทความบล็อกเสมอ
3. ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อขับเคลื่อนการเข้าชม
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการแสดงที่พักของคุณและโปรโมตเว็บไซต์จองห้องพักโดยตรง
- การเล่าเรื่องด้วยภาพ: โพสต์รูปภาพและวิดีโอห้องพัก ตัวเลือกการรับประทานอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น วิดีโอสั้น (Reels) และสตอรี่มักจะมีการมีส่วนร่วมสูงกว่า
- ดำเนินการแคมเปญโฆษณาแบบชำระเงิน: ใช้โฆษณา Facebook และ Instagram ที่กำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่สนใจจุดหมายปลายทางของคุณ เน้นสิทธิพิเศษสำหรับการจองโดยตรงเท่านั้น
- มีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม: ตอบกลับความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์ของแขก และสร้างโพลเพื่อสร้างชุมชน
- การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์: ร่วมมือกับบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวหรืออินฟลูเอนเซอร์ในท้องถิ่นเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และได้รับเนื้อหาที่แท้จริง
4. สร้างการตลาดผ่านอีเมลและโปรแกรมความภักดี
แขกที่เคยเข้าพักมาก่อนคือแหล่งที่ดีที่สุดของคุณสำหรับการจองโดยตรงซ้ำ การตลาดผ่านอีเมลยังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรักษาความสัมพันธ์เหล่านี้
- รวบรวมอีเมลแขก: สนับสนุนให้มีการสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ของคุณและระหว่างการเช็คอิน
- แคมเปญอีเมลส่วนบุคคล: ส่งข้อเสนอที่ปรับให้เหมาะสมตามการเข้าพักครั้งก่อน วันครบรอบ หรือกิจกรรมในท้องถิ่น
- รางวัลความภักดี: เสนอคะแนน การอัพเกรดฟรี หรืออัตราส่วนลดสำหรับแขกที่กลับมา แสดงสิทธิประโยชน์ความภักดีอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ของคุณ
5. เสนอข้อเสนอและสิทธิพิเศษสุดพิเศษบนเว็บไซต์ของคุณ
แขกชอบที่จะรู้สึกเหมือนได้รับสิ่งพิเศษ เสนอสิทธิประโยชน์ที่เฉพาะผู้ที่จองผ่านเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะได้รับ ตัวอย่างเช่น:
- อาหารเช้าฟรีสำหรับสองท่าน
- เช็คอินก่อนเวลา (10.00 น. แทน 15.00 น.) หรือเช็คเอาต์ล่าช้า (14.00 น. แทน 11.00 น.)
- การอัพเกรดห้องพักฟรี (ถ้ามี)
- ประสบการณ์ท้องถิ่นฟรี เช่น บัตรกำนัลชิมไวน์ หรือส่วนลดที่พิพิธภัณฑ์ใกล้เคียง
สิทธิพิเศษเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายมากนัก แต่ก็สร้างความแตกต่างอย่างมาก ครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็ก ๆ จะกระโดดคว้าโอกาสในการเช็คเอาต์ล่าช้า และคู่รักอาจเลือกที่พักของคุณเพื่อรับการชิมไวน์ฟรี
6. ลงทุนในการโฆษณาแบบชำระเงิน
แคมเปญแบบชำระเงินช่วยให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักอย่างจริงจัง
- โฆษณา Google Hotel Ads: โฆษณาเหล่านี้แสดงอัตราค่าห้องพักของคุณในการค้นหาและแผนที่ของ Google ซึ่งจะนำการเข้าชมตรงไปยังเว็บไซต์ของคุณ
- โฆษณาแบบ Retargeting: กำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณแต่ไม่ได้ทำการจองให้เสร็จสิ้น แสดงข้อเสนอพิเศษเพื่อดึงพวกเขากลับมา
- แพลตฟอร์ม Metasearch: ปรับปรุงรายชื่อที่พักบน Tripadvisor, Google Travel, และ Trivago เพื่อเพิ่มการมองเห็นและจับการจองโดยตรง
7. ใช้รีวิวและความน่าเชื่อถือทางสังคมเพื่อสร้างความไว้วางใจ
ก่อนทำการจอง นักท่องเที่ยวมักจะตรวจสอบรีวิว ข้อเสนอแนะเชิงบวกที่แสดงบนเว็บไซต์ของคุณสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ
- แสดงรีวิวที่ได้รับการยืนยัน: ผสานรวมรีวิวจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google หรือ TripAdvisor บนเว็บไซต์ของคุณ
- ส่งเสริมเนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้ (UGC): ขอให้แขกแบ่งปันรูปภาพและแท็กที่พักของคุณบนโซเชียลมีเดีย
- ตอบกลับข้อเสนอแนะ: การยอมรับทั้งรีวิวเชิงบวกและเชิงลบแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและสร้างความไว้วางใจ
8. ติดตามประสิทธิภาพและปรับปรุง
การโปรโมตเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง การติดตามอย่างสม่ำเสมอทำให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล
- ติดตามการวิเคราะห์เว็บไซต์: ใช้ Google Analytics เพื่อวัดปริมาณการเข้าชม อัตราการเปลี่ยนเป็นยอดจอง และแหล่งที่มาของการจอง
- การทดสอบ A/B: ทดลองใช้ปุ่ม(CTA) รูปแบบหน้าหรือข้อเสนอสุดพิเศษที่แตกต่างกัน เพื่อค้นหาสิ่งที่ขับเคลื่อนการจองได้มากที่สุด
- ปรับแคมเปญ: จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับช่องทางที่นำมาซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงที่สุด
ข้อคิดเห็นสุดท้าย
การโปรโมตเว็บไซต์จองห้องพักโดยตรงของคุณไม่ใช่การแทนที่ OTAs แต่เป็นการลดการพึ่งพาพวกเขา การผสมผสานระหว่างเว็บไซต์ที่ได้รับการปรับปรุง, SEO ที่แข็งแกร่ง, การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย, แคมเปญอีเมลที่เป็นส่วนตัว, และสิทธิพิเศษสุดพิเศษ จะช่วยให้คุณดึงดูดการจองโดยตรงได้มากขึ้น ด้วยความพยายามที่สม่ำเสมอ โรงแรมของคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับแขกในขณะที่เพิ่มผลกำไรได้
